ภาพ: https://www.thaiquote.org/
เทศกาลปีใหม่หยุดยาวแบบนี้ หลายๆคนคงเดินทางกลับบ้านเกิด กลับภูมิลำเนา เพื่อไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว หรือหลายๆคนอาจจะใช้ช่วงหยุดยาวเช่นนี้เพื่อไปท่องเที่ยวเติมพลังงานให้กับชีวิต และแน่นอนว่าช่วงนี้การใช้รถบนท้องถนนคงเยอะมาก ถนนหลายๆเส้นรถคงติดกันแทบไม่ได้ขยับ ซึ่งก็จำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทางช่วงนี้เป็นพิเศษด้วย วันนี้เราจะมาแนะนำการเตรียมตัวก่อนการเดินทางในเทศกาลแบบนี้กัน
1. เตรียมความพร้อมของตัวผู้ขับขี่
สำหรับผู้ที่จะเป็นคนขับรถนั้นควรจะพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนการเดินทาง ไม่กินยาที่อาจจะส่งผลให้เกิดความง่วงหรืออ่อนเพลียก่อนการเดินทาง ทั้งงดพวกสิ่งมึนเมาทั้งหลายด้วย และอีกสิ่งที่จำเป็นก็คือควรจะศึกษาเส้นทางก่อนการเดินทาง เพราะเส้นทางประจำที่เคยใช้เดินรถ เมื่อมาถึงช่วงเทศกาลแบบนี้อาจจะรถติดมากจนแทบไม่น่าเชื่อ จึงควรศึกษาหาเส้นทางอื่นๆเผื่อไว้ด้วยสำหรับการเดินทางในช่วงเทศกาลแบบนี้
2. เตรียมความพร้อมของรถ
ตรวจเช็คความพร้อมและสมรรถนะของรถสัก 1 สัปดาห์ก่อนวันที่จะออกเดินทาง เพราะหากมีปัญหาอะไรจะได้เร่งแก้ไขได้ทัน หรือหาช่องทางอื่นๆสำรองไว้ก่อนได้ ระบบความปลอดภัยที่ควรจะตรวจเช็คเป็นพิเศษ เช่น ระบบเบรค, การระบายความร้อน, น้ำมันเครื่อง, สภาพยาง และความพร้อมของระบบไฟฟ้าต่างๆของรถ พวกไฟส่องสว่าง ไฟเบรค ไฟเลี้ยว
3. อุปกรณ์เสริมที่จำเป็นสำหรับการเดินทาง
- น้ำ 1-2 ลิตร จำเป็นต้องพกไว้ในรถ เพราะนอกจากจะเอาไว้ดื่มแล้ว ยังไว้เติมหม้อน้ำของรถได้ด้วยในภาวะที่อาจเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
- คู่มือประจำรถ ควรจะพกไปด้วยสำหรับการเดินทาง เพราะอาจจะมีความจำเป็นได้ใช้เพื่อแก้ปัญหาเบื้องต้นหรือเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆได้
- แว่นกันแดด บางเวลาที่ต้องรถติดหรือขับรถตากแดดเป็นเวลานานๆ อาจทำให้สายตาเราเจอแสงที่จ้าเกินไป ซึ่งหลายๆครั้งก็เป็นอันตรายได้ เพราะเราจำเป็นต้องหรี่ตาเวลาเจอแสงเหล่านั้น มีผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้นเช่นกัน
- ผ้าเย็น ไว้เช็ดมือ เช็ดหน้า และเป็นอีกสิ่งช่วยให้สดชื่นด้วย ในภาวะที่รถติดนานๆหรือการเดินทางไกลที่อาจจะมีความเมื่อยล้าสะสม
4. การขับรถ
- ควรเดินทางในตอนกลางวัน เพราะเป็นช่วงเวลาที่มีความปลอดภัยมากกว่าในตอนกลางคืน ด้วยทัศนวิสัยที่ดีกว่า ทั้งการเดินทางในช่วงกลางคืนนั้น บางครั้งอาจจะต้องต่อสู้กับความง่วงที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้มากกว่า ซึ่งอาจจะทำให้หลับในได้
- ขับรถด้วยความเร็วตามกฎหมายกำหนด
- อย่าขับรถจี้รถคันหน้า หรือรถบรรทุกใหญ่มากเกินไป เพราะนอกจากจะเสี่ยงที่เราจะเบรคไม่ทันแล้วไปชนท้ายคันหน้าแล้ว พวกเศษหิน เศษต่างๆอาจจะกระเด็นจากรถคันหน้ามาโดนสีหรือกระจกของรถเราแตกได้
- ไม่แซงถ้าไม่จำเป็น โดยเฉพาะถนนบางเส้นที่เป็นแบบ 2 เลน ไม่ควรขับขี่ด้วยความประมาท ควรมีสติตลอดเวลา และควรหาเวลาพักรถด้วย เพื่อหย่อนความเมื่อยล้าบางส่วนออกไปด้วย
5. เตรียมอุปกรณ์สื่อสารให้พร้อม
เครื่องมือสื่อสารก็มีความจำเป็นอย่างมาก เพราะในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน แต่อุปกรณ์สื่อสารไม่สามารถใช้งานได้นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น โดยอาจจะพกเป็น power bank หรืออุปกรณ์ชาร์ตในรถยนต์ไว้ด้วย ก็เป็นสิ่งที่เหมาะสม
6. เหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้
- กรณีสุนัขวิ่งตัดหน้า บางครั้งหากมันฉุกเฉินจริงๆ เรามาด้วยความเร็วค่อนข้างมาก และระยะเบรคไม่ทันแน่นอน ก็ต้องตัดสินใจที่จะชน ดีกว่าที่จะเบรค เพราะถ้าหากตัดสินใจเบรค อาจจะทำให้รถเสียหลัก เสียการควบคุมและเราอาจสูญเสียมากกว่าที่ควรจะเป็นได้ เช่นนั้นแล้วการตัดสินใจชนเลยจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
- กรณียางระเบิด หากยางระเบิดต้องพยายามประคองพวงมาลัยให้มั่นคง อย่าเหยียบเบรคอย่างกะทันหัน เพราะอาจจะทำให้รถเสียการทรงตัวได้ และอย่าเขาเกียร์ว่างด้วยเช่นกัน เพราะจะทำให้รถเสียแรงเฉื่อยไป ควรถอนคันเร่งและปล่อยให้ความเร็วลดลงเรื่อยๆ แต่สำหรับรถเกียร์ธรรมดานั้นอาจจะทดเกียร์ช่วยได้ในส่วนนี้ และเมื่อความเร็วลดลงถึงระดับหนึ่งแล้ว อาจจะค่อยๆแตะเบรคแล้วปล่อยเป็นจังหวะ ให้ยังพอควบคุมรถได้ แล้วประคองรถเพื่อเข้าข้างทางหรือมุมที่ปลอดภัยต่อเราเองและผู้ร่วมทางคนอื่นๆ พร้อมทั้งเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินเช่นนี้เราควรรีบปิดไฟฉุกเฉินด้วย ให้รถคันอื่นๆสังเกตเห็นว่าเรามีสถานการณ์ฉุกเฉิน รถเหล่านั้นจะชะลอและได้รักษาระยะห่างจากเราไว้ด้วย เพื่อความปลอดภัย
ข้อมูล: https://www.pptvhd36.com/
