ภาพ: http://www.acautoservice.co.th/
หลายคนอาจเคยเจอปัญหาปวดหัวเกี่ยวกับการใช้งานรถยนต์มาบ้าง เช่น เรื่องเกี่ยวกับหม้อน้ำและระบบระบายความร้อนของรถยนต์ เพราะเรื่องของหม้อน้ำนี้แรกๆนั้นอาจจะเป็นปัญหาที่เล็กน้อย ยังไม่มีผลต่อการใช้งานรถโดยทั่วไป แต่อาจจะเพิ่มความรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆถ้าหากไม่มีการคอยตรวจเช็คอย่างสม่ำเสมอ โดยขั้นร้ายแรงที่สุดอาจจะถึงขั้นฝาสูบของเครื่องยนต์โก่ง หรือประเก็นฝาสูบแตกเลยทีเดียว ซึ่ง 1 สิ่งสำคัญที่หลายๆคนมักจะมองข้ามในส่วนนี้ก็คือ “ฝาหม้อน้ำ”
ฝาหม้อน้ำ นั้นมีหน้าที่ในการควบคุมแรงดันภายในระบบหม้อน้ำให้คงที่ ด้วยวาล์วที่ประกอบด้วยสปริงแรงดันและยางที่ทนความร้อนได้สูง โดยหลักการทำงานคือเมื่อความร้อนภายในของระบบหม้อน้ำสูงขึ้น ทำให้มีแรงดันที่สูงขึ้นถึงระดับหนึ่ง (รถทั่วไปจะอยู่ที่ 0.9 หรือ 1.1 บาร์) แรงดันน้ำก็จะดันให้สปริงที่ฝาหม้อน้ำหดและน้ำจำนวนหนึ่งก็จะถูกดันไปเก็บไว้ในหม้อพักน้ำสำรอง พอถึงเวลาเมื่อความร้อนของระบบหม้อน้ำเย็นลง แรงดันที่ลดต่ำลงภายในระบบหม้อน้ำจะทำให้สปริงที่ฝาหม้อน้ำคลายตัว ซึ่งก็จะมีสปริงอีกชุดภายในฝาหม้อน้ำที่ทำหน้าที่เป็นสุญญากาศ ดูดน้ำจากหม้อพักน้ำสำรองกลับมาเข้าระบบหม้อน้ำเช่นเดิม
อย่างไรก็ตามถ้าหากว่าฝาหม้อน้ำนั้นเกิดชำรุด ไม่ว่าจะมองเห็นด้วยสภาพภายนอก หรืออาจจะเสียหายภายในระบบสปริงแรงดันของฝาหม้อน้ำอีกทีก็ตาม ก็จะส่งผลให้ระบบการควบคุมแรงดันนั้นผิดปกติไป ทำให้น้ำหล่อเย็นในระบบหม้อน้ำหายไปแบบไม่มีสาเหตุก็เป็นได้ ซึ่งถ้าปล่อยไว้ในระยะยาวเครื่องยนต์ของรถเรานั้นอาจจะเสียหายร้ายแรงได้
เพิ่มเติม
- ควรเลือกใช้น้ำยาหล่อเย็นที่ได้คุณภาพ และควรเปลี่ยนถ่ายปีละครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดตระกันและทำให้เกิดความเสียหายของยางทนความร้อนตามส่วนต่างๆของระบบหม้อน้ำ และอาจจะส่งผลต่อการใช้งานของสปริงแรงดันที่ฝาหม้อน้ำด้วย
- ควรเปลี่ยนฝาหม้อน้ำใหม่ทุกๆ 80,000 กิโลเมตร เพราะไม่ว่ายังไงส่วนของสปริงแรงดัน และยางทนความร้อนก็จะสึกหรอตามอายุและระยะเวลาในการใช้งานอยู่ดี
การเลือกซื้อฝาหม้อน้ำใหม่
- เลือกใช้ฝาหม้อน้ำที่ได้ประสิทธิภาพ ซึ่งเราขอแนะนำว่าซื้อใหม่จากศูนย์ก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะได้ทั้งคุณภาพและราคาไม่แพงอย่างที่คิดด้วย
- อย่าไปเสียดายเงิน และใช้หม้อน้ำที่เป็นของเทียม เพราะหากเกิดความเสียหายขึ้นมา อาจต้องเสียค่าเสียหายมากกว่าปกติไปอีกหลายเท่า
- ใช้ฝาหม้อน้ำที่มีการรองรับแรงดันเท่าสเป็คเดิม เช่น 0.9 หรือ 1.1 บาร์
ข้อมูล: https://www.dailynews.co.th/
