ทำไงดีเมื่อรถหาย!!

ทำไงดีเมื่อรถหาย!!

            ปัจจุบันแม้การเติบโตของเศรษฐกิจ เมืองและสังคมจะมากขึ้น แต่ก็ยังมีกลุ่มคนบางประเภทที่ยังหาช่องทางในการสร้างรายได้จากการเติบโตของเศรษฐกิจไม่ได้ ซึ่งอาจด้วยความคิดหรือการทำจนเป็นนิสัยมาแต่เดิม คนเหล่านี้จึงใช้วิธีในการหารายได้โดยการลักขโมย ซึ่งแม้จะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกและมีความผิดต้องได้รับโทษ แต่คนเหล่านี้คิดแค่ว่าอย่างน้อยวิธีการหายรายได้เหล่านี้ก็ได้มาง่ายดายเหลือเกิน และคุ้มค่าที่จะเสี่ยง

ซึ่งผู้ที่มีรถยนต์อาจจะต้องเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นได้ หนึ่งในนั้นก็คือเหตุการณ์รถหาย หรือโดนขโมย ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเกิดขึ้นกับตัวเราจริงๆแล้วย่อมเป็นปัญหาในการใช้ชีวิตแน่นอน และคงเป็นสิ่งที่ใครก็คงไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง และวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีในการจัดการเมื่อรถหายให้เป็นระบบและมีขั้นตอน เพื่อจะไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป

1. ตั้งสติ เลิกตกใจ ให้ตั้งสติให้ดีก่อน เพราะหลายคนอาจจะไม่ได้รถหายจริงๆ แต่แค่เพียงลืมที่จอดรถของตัวเองเท่านั้น!! ให้ตั้งสติให้มั่นอย่าพึ่งแตกตื่น พยายามนึกให้แน่ใจว่าจอดรถไว้ที่ไหน ในบางกรณีคือเพื่อนหรือคนใกล้ตัวเอารถไปแต่ไม่ได้บอกก่อน ให้พยายามติดต่อสอบถามให้ชัดเจนว่าได้เอารถไปไหม

2. หากหลังจากที่ตรวจเช็คทุกอย่างดีแล้ว และมั่นใจว่ารถหายแน่ๆ ให้เขียนรายละเอียดของรถคุณ ทั้งรายละเอียดยี่ห้อ รุ่นรถ สี ทะเบียนรถ ลักษณะหรือตำหนิพิเศษอื่นๆ เขียนรายละเอียดออกมาให้ได้มากที่สุด และรีบเดินทางไปสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุดเพื่อแจ้งความ และระหว่างนั้นก็โทรแจ้งสายด่วนรถหาย 1192 ไปด้วย เพื่อบันทึกว่าเจ้าของรถเป็นใคร หมายเลขประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ สถานที่เกิดเหตุ เผื่อว่าคนร้ายที่ขโมยรถไปจะยังหนีได้ไม่ไกล เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่จะได้สกัดจับได้ทัน นอกจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วตัวเราเองก็ต้องประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆด้วยที่รับเรื่องเหล่านี้ เพื่อที่พลเมืองดีจะได้ช่วยกันสกัดจับอีกแรงหนึ่ง อย่างไรก็ตามการได้รถคืนนั้นก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งข้อมูลรายละเอียดของรถที่ระบุและเวลาที่แจ้งความหลังจากรถหาย เพราะบางทีกว่าจะรู้ตัวว่ารถโดนขโมยก็ผ่านไปหลายชั่วโมง รถอาจจะออกจากพื้นที่ไปไกลและถูกแยกชิ้นส่วนขายไปแล้ว

3. รีบแจ้งบริษัทประกันเช่นกัน เพราะบริษัทประกันมักมีเจ้าหน้าที่เคลมประกันที่ใช้มอเตอร์ไซน์เป็นยานพาหนะ คนร้ายอาจจะไม่ทันสังเกต สามารถที่จะติดตามหรือแจ้งสกัดตามรถที่โดนขโมยอีกทางได้ และเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันมาดูที่สถานที่เกิดเหตุ วันที่ เวลาที่รถหาย เพื่อจะได้ทำเรื่องเคลมและจ่ายเงินทดแทนในกรณีที่คุณทำประกันที่ครอบคลุมถึงการถูกโจรกรรมเอาไว้

4. ขอหลักฐานจากคนที่อยู่รอบๆที่เกิดเหตุ สอบถามขอข้อมูลว่าพบเห็นบุคคลที่มีพิรุธหรือผู้ต้องสงสัยหรือไม่ หรือขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณสถานที่เกิดเหตุ เพื่อจะได้นำข้อมูลเหล่านี้มาใช้เป็นหลักฐานในการระบุลักษณะของผู้ต้องสงสัยหรือคนร้าย เป็นข้อมูลที่นำไปสู่การจับกุมต่อไป

เราเองก็ควรสร้างพฤติกรรมในการใช้รถที่ดีด้วย เพราะจะเป็นการลดโอกาสอีกทางหนึ่งที่รถของเราจะถูกโจรกรรม

  • ตรวจสอบความเรียบร้อยทุกครั้งเมื่อจอดรถ หลังจากจอดรถให้เราเช็คให้แน่ใจว่าเราไม่ได้ลืมกุญแจไว้ที่รถและเช็คดูอีกทีด้วยว่าเราได้ล็อครถแล้วหรือยัง แม้จะเป็นเรื่องที่ง่ายๆ แต่หลายคนก็มองข้ามไป ยิ่งจังหวะที่เรามีธุระเร่งด่วนต้องรีบจอดรถแล้วรีบไป หลายคนก็ลืมเรื่องง่ายๆเหล่านี้ไป ตั้งสติก่อนสักนิดเพื่อให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้บ้าง หรืออีกกรณีที่เป็นบ่อยๆก็คือรถไม่ได้ล็อค ที่อาจจะเพราะว่าเราลืมหรือเพราะว่าการล็อครถด้วยกุญแจรีโมทบางทีกดแล้วแต่สัญญาณไม่ทำงาน ทำให้รถไม่ได้ล็อค ทางที่ดีคือควรเช็คประตูรถของคุณอีกทีด้วยว่าประตูรถได้ล็อคแล้วหรือยัง

  • การเลือกสถานที่จอดรถ พยายามจอดรถในที่ที่คนพลุกพล่านและสว่าง เพราะยังไงก็ตามขโมยมักจะไม่ลงมือในที่ที่คนผ่านไปมาเยอะแยะแน่นอน ขโมยต่อให้จะมีฝีมือขั้นเทพแค่ไหนแต่ก็ต้องขโมยในสถานที่ลับๆด้วย ไม่มีขโมยจะมาขโมยรถในที่ที่คนผ่านไปผ่านมาเยอะแยะแน่นอน และการจอดรถในที่สว่างก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้ขโมยลงมือยาก เพราะการที่เราจอดรถในที่สว่างจะเป็นจุดสังเกตให้ทุกคนเห็นได้ง่าย ยากต่อการลงมือ

  • อย่าทิ้งของสำคัญหรือของมีค่าไว้ในรถ การที่เราวางกระเป๋าเงินหรือของมีค่าไว้ในรถก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดการโจรกรรมขึ้น เพราะคนร้ายอาจจะยังลังเลอยู่ในทีแรกว่าจะลงมือไหม และถ้าเห็นของมีค่าเหล่านี้อยู่ในรถก็จะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนร้ายตัดสินใจได้ได้ง่ายขึ้น รวมทั้งพวกบัตรจอดรถที่ได้จากการเข้าไปจอดตามห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่จอดรถต่างๆ ก็ไม่ควรที่จะทิ้งไว้ในรถ เพราะหากไม่มีบัตรจอดรถก็เป็นการจับพิรุธของยามอีกทีหนึ่งว่าคนที่ขับรถออกไปนั้นคือเป็นเจ้าตัวจริงของรถคันนั้นไหม

  • ใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มความปลอดภัย อาจใช้ตัวช่วยในการป้องกันการโจรกรรมต่างๆ เช่น เครื่องมือล็อคพวงมาลัย ล็อคเบรกล็อคคันเร่งเพิ่ม ที่แม้เครื่องมือเหล่านี้จะไม่ได้ช่วยป้องกันการขโมยได้ 100% แต่ก็เป็นตัวช่วยให้ใช้เวลานานและยากขึ้นในการขโมย ทำให้การลงมือนั้นอาจไม่สำเร็จ ใช้เวลามาก มีคนมาพบเห็นก่อนและการลงมือของคนร้ายก็เลยต้องล้มเลิกไป นอกจากเครื่องมือป้องกันโจรกรรมข้างต้นที่ได้กล่าวถึงไปแล้ว อาจจะใช้ระบบการติดตามรถที่แอบซ่อนไว้ในรถ คือใช้ GPS tracking เป็นอีกตัวช่วยหนึ่ง ซึ่งเจ้า GPS tracking นี้จะเป็นตัวช่วยส่งสัญญาณให้กับเจ้าของรถรู้ได้ว่ารถของตัวเองอยู่ที่ใด เพราะในบางทีคนร้ายที่ขโมยรถไปอาจจะยังไม่ได้สังเกตว่ารถได้ติดระบบติดตามเพิ่มเข้าไปด้วย ซึ่งหากเรารู้ตำแหน่งของรถจะได้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อสกัดจับคนร้ายได้ถูกที่ นอกจากจะได้รถคืนแล้วจะยังได้นำตัวคนผิดมารับโทษด้วย
 2740
ผู้เข้าชม

gps

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์