ปัจจุบันแม้การเติบโตของเศรษฐกิจ เมืองและสังคมจะมากขึ้น แต่ก็ยังมีกลุ่มคนบางประเภทที่ยังหาช่องทางในการสร้างรายได้จากการเติบโตของเศรษฐกิจไม่ได้ ซึ่งอาจด้วยความคิดหรือการทำจนเป็นนิสัยมาแต่เดิม คนเหล่านี้จึงใช้วิธีในการหารายได้โดยการลักขโมย ซึ่งแม้จะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกและมีความผิดต้องได้รับโทษ แต่คนเหล่านี้คิดแค่ว่าอย่างน้อยวิธีการหายรายได้เหล่านี้ก็ได้มาง่ายดายเหลือเกิน และคุ้มค่าที่จะเสี่ยง
ซึ่งผู้ที่มีรถยนต์อาจจะต้องเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นได้ หนึ่งในนั้นก็คือเหตุการณ์รถหาย หรือโดนขโมย ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเกิดขึ้นกับตัวเราจริงๆแล้วย่อมเป็นปัญหาในการใช้ชีวิตแน่นอน และคงเป็นสิ่งที่ใครก็คงไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง และวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีในการจัดการเมื่อรถหายให้เป็นระบบและมีขั้นตอน เพื่อจะไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป
1. ตั้งสติ เลิกตกใจ ให้ตั้งสติให้ดีก่อน เพราะหลายคนอาจจะไม่ได้รถหายจริงๆ แต่แค่เพียงลืมที่จอดรถของตัวเองเท่านั้น!! ให้ตั้งสติให้มั่นอย่าพึ่งแตกตื่น พยายามนึกให้แน่ใจว่าจอดรถไว้ที่ไหน ในบางกรณีคือเพื่อนหรือคนใกล้ตัวเอารถไปแต่ไม่ได้บอกก่อน ให้พยายามติดต่อสอบถามให้ชัดเจนว่าได้เอารถไปไหม
2. หากหลังจากที่ตรวจเช็คทุกอย่างดีแล้ว และมั่นใจว่ารถหายแน่ๆ ให้เขียนรายละเอียดของรถคุณ ทั้งรายละเอียดยี่ห้อ รุ่นรถ สี ทะเบียนรถ ลักษณะหรือตำหนิพิเศษอื่นๆ เขียนรายละเอียดออกมาให้ได้มากที่สุด และรีบเดินทางไปสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุดเพื่อแจ้งความ และระหว่างนั้นก็โทรแจ้งสายด่วนรถหาย 1192 ไปด้วย เพื่อบันทึกว่าเจ้าของรถเป็นใคร หมายเลขประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ สถานที่เกิดเหตุ เผื่อว่าคนร้ายที่ขโมยรถไปจะยังหนีได้ไม่ไกล เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่จะได้สกัดจับได้ทัน นอกจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วตัวเราเองก็ต้องประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆด้วยที่รับเรื่องเหล่านี้ เพื่อที่พลเมืองดีจะได้ช่วยกันสกัดจับอีกแรงหนึ่ง อย่างไรก็ตามการได้รถคืนนั้นก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งข้อมูลรายละเอียดของรถที่ระบุและเวลาที่แจ้งความหลังจากรถหาย เพราะบางทีกว่าจะรู้ตัวว่ารถโดนขโมยก็ผ่านไปหลายชั่วโมง รถอาจจะออกจากพื้นที่ไปไกลและถูกแยกชิ้นส่วนขายไปแล้ว
3. รีบแจ้งบริษัทประกันเช่นกัน เพราะบริษัทประกันมักมีเจ้าหน้าที่เคลมประกันที่ใช้มอเตอร์ไซน์เป็นยานพาหนะ คนร้ายอาจจะไม่ทันสังเกต สามารถที่จะติดตามหรือแจ้งสกัดตามรถที่โดนขโมยอีกทางได้ และเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันมาดูที่สถานที่เกิดเหตุ วันที่ เวลาที่รถหาย เพื่อจะได้ทำเรื่องเคลมและจ่ายเงินทดแทนในกรณีที่คุณทำประกันที่ครอบคลุมถึงการถูกโจรกรรมเอาไว้
4. ขอหลักฐานจากคนที่อยู่รอบๆที่เกิดเหตุ สอบถามขอข้อมูลว่าพบเห็นบุคคลที่มีพิรุธหรือผู้ต้องสงสัยหรือไม่ หรือขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณสถานที่เกิดเหตุ เพื่อจะได้นำข้อมูลเหล่านี้มาใช้เป็นหลักฐานในการระบุลักษณะของผู้ต้องสงสัยหรือคนร้าย เป็นข้อมูลที่นำไปสู่การจับกุมต่อไป
เราเองก็ควรสร้างพฤติกรรมในการใช้รถที่ดีด้วย เพราะจะเป็นการลดโอกาสอีกทางหนึ่งที่รถของเราจะถูกโจรกรรม