การใช้งานผิดๆเกี่ยวกับแอร์รถยนต์ ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

การใช้งานผิดๆเกี่ยวกับแอร์รถยนต์ ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

            ทุกวันนี้การใช้งานรถยนต์ในบ้านเรานั้นแทบจะทุกคันนั้นต้องมีแอร์อยู่แล้ว เพราะด้วยสภาพอากาศที่ร้อนของบ้านเราขนาดนี้ ถ้าหากว่าไม่มีแอร์ก็คงจะเป็นเรื่องลำบากในการเดินทางอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามการใช้แอร์รถยนต์ที่ทุกคนต่างใช้กันอยู่นั้น ก็มักจะเห็นว่ามีความเข้าใจในการใช้งานที่ผิดอยู่บ้าง และวันนี้เราจะมาแนะนำและชี้ให้เห็นถึงลักษณะการใช้งานที่ถูกต้องสำหรับการใช้แอร์หรือระบบปรับอากาศในรถยนต์ของเรา

1. ก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ ตรวจสอบเสมอว่าสวิตซ์การทำงานพัดลมและแอร์ (A/C) นั้น "ปิด"อยู่

            ความจริงแล้วการทำงานของเครื่องยนต์และระบบแอร์ของรถนั้นอยู่คนละส่วนกัน แม้ว่าขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงานและมีการเปิด A/C แล้วกำลังของเครื่องยนต์จะถูกฉุดกำลังไปช่วยในส่วนของการทำงาน A/C ด้วย แต่การสตาร์ทเครื่องยนต์นั้นแม้ว่าสวิตซ์การทำงาน A/C จะอยู่ในตำแหน่งใดก็ไม่มีผลต่อการสตาร์ทเครื่องยนต์ โดยการทำงานของระบบแอร์นั้นจะเริ่มทำงานหลังจากติดเครื่องยนต์แล้วประมาณ 2-3 วินาที

2. ก่อนดับเครื่อง ควรเร่งแอร์ให้สุดเพื่อไล่น้ำแข็งที่เกาะตามคอยล์แอร์หลุดออกไป

            ความจริง คือ การทำเช่นนี้ยิ่งทำให้ความชื้น ไอน้ำไปเกาะที่คอยล์แอร์มากขึ้น จริงๆแล้วเมื่อรู้ว่าจะจอดรถนั้นควรปิดปุ่ม A/C แต่เปิดพัดลมไปที่เบอร์แรงสุด เพื่อเป่าความชื้นที่คอลย์เย็นจนแห้ง จะเป็นตัวช่วยให้คอยล์เย็นไม่มีความอับชิ้น สกปรกน้อย และยังเป็นการช่วยกำจัดกลิ่นอับจากระบบแอร์ของรถด้วย

3. เร่งแอร์แรงขณะขับรถในความเร็วคงที่ ไม่ทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้น

            แอร์รถยนต์ก็เหมือนแอร์บ้าน ยิ่งเปิดแรงก็ยิ่งกินพลังงานมากขึ้น เพราะยิ่งเปิดพัดลมแรง เปิดแอร์เย็น คอมแอร์ก็ต้องทำงานหนักมากขึ้นในการเพิ่มแรงอัดเพื่อปั้มน้ำยาแอร์ ก็ส่งผลให้ดึงกำลังเครื่องยนต์ไปใช้มากขึ้น และเมื่อเครื่องยนต์ทำงานมากขึ้นก็ทำให้กินน้ำมันมากขึ้นด้วยเช่นกัน

4. น้ำมันใกล้หมด ปิดแอร์ลดกระจกลง ช่วยประหยัดน้ำมัน

            ในการใช้งานจริงๆ หากปิดแอร์จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันขึ้นได้จริง แต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยหากปิดแอร์แล้วมีการลดกระจกลงด้วย จะทำให้รถเกิดการต้านลมขึ้นไปอีก รวมๆแล้วก็กลับไปกินน้ำมันเช่นเดิม ไม่ต่างอะไรกับเปิดแอร์แต่ว่าปิดกระจก ซึ่งหากว่าต้องการประหยัดน้ำมันจริงๆแล้ว หากไม่เปิดแอร์ก็ไม่ควรลดกระจกลกเช่นกัน

5. จอดรถแล้วมีน้ำหยด แปลว่าน้ำยาแอร์รั่ว

            หยดน้ำที่หยดนั้นเป็นเรื่องปกติ เพราะมันคือน้ำทิ้งของแอร์ แต่กลับกันถ้ามีน้ำไหลออกมาภายในรถ และมีความเย็นเมื่อสัมผัส นี่กลับเป็นสิ่งที่ต้องกังวลมากกว่า เพราะหมายความว่าน้ำยาแอร์นั้นกำลังรั่ว

ข้อมูล: https://auto.mthai.com/

 5870
ผู้เข้าชม

gps

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์