จากการเติบโตของธุรกิจกลุ่มพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เราคุ้นหูกันดีว่า ธุรกิจ E-Commerce ส่งผลให้มูลค่าของระบบโลจิสติกส์มีมูลค่าเพิ่มขึ้นไปด้วย แต่การจัดการด้านโลจิสติกส์อาจจะไม่สามารถจัดการให้เป็นไปตามแนวทางที่ควรจะเป็นอีกต่อไปเมื่อถึงวันที่การเติบโตนั้นไปสูงมาก มากจนอาจจะไม่สามารถหาทางไปต่อได้อีกแล้ว ถึงแม้จะไม่ใช่ในตอนนี้ และบางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องมีความพร้อม ความต้องการเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคำตอบที่จะตอบคำถามนี้ เราจะต้องให้ความสำคัญกับแนวโน้มของระบบโลจิสติกส์ที่จะเกิดขึ้นในภายในปีนี้ ส่วนหนึ่งของผลกระทบที่เกิดขึ้นเกิดจากการเติบโตของธุรกิจลูกค้าที่ใช้ระบบการขนส่ง
ผู้เขี่ยวขาญด้านโลจิสติกส์จะต้องพิจารณาและประเมินกลยุทธ์ด้านโลจิสติกส์ใหม่ในปีนี้ ต้องเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่คาดหวังที่จะช่วยให้การวางแผนด้านโลจิสติกส์นั้นประสบความสำเร็จได้
ระบบโลจิสติกส์นั้นกำลังพัฒนาไปข้างหน้าเรื่อยๆ ขณะที่อุตสาหกรรมต่างๆกลับกำลังพัฒนาภายในองค์กรเป็นหลัก ดังนั้นเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ความกดดันในเรื่องผลตอบแทน ความต้องการที่จะเพิ่มใบสั่งซื้อ และการปฏิบัติตามกฎระเบียบต่างๆไปด้วย ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์จะเป็นส่วนสำคัญต่อความสำเร็จในการขายสินค้าที่ต้องพึ่งพาระบบขนส่งสินค้าและบริการ แต่ว่าแนวโน้มของระบบโลจิสติกส์ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ขายหรือองค์กรธุรกิจต่างๆที่เป็นรายใหญ่ อาจแตกต่างจากที่ส่งผลต่อธุรกิจรายย่อย โดยจุดสำคัญที่ทำให้แนวโน้มของระบบโลจิสติกส์แตกต่างกันนั้น เกิดจากการใช้เทคโนโลยี ปริมาณสินค้า และระยะทางในการขนส่งที่แตกต่างกัน
การศึกษาเทคโนโลยีและความเข้าใจเกี่ยวกับแนวโน้มของเทคโนโลยีโลจิสติกส์ โดยระบบโลจิสติกส์ที่มีความพร้อมที่จะเป็นตัวช่วยอย่างมีประสิทธิภาพในการจัดการเรื่องผลประโยชน์ของธุรกิจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นหัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จหรือความล้มเหลวของธุรกิจด้วยเช่นกัน เมื่อผู้บริโภคมีความต้องการต่างๆ จากสินค้าหรือบริการที่ได้จากการขนส่งมากขึ้น และเทคโนโลยีนั้นก็เป็น 1 ในทางสำหรับแก้ไขปัญหา เพื่อให้สามารถขนส่งสินค้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการใช้ทรัพยากรที่น้อยลง
ข้อมูล: http://cerasis.com/
ทดลองใช้ฟรี
All Download