แม้ว่าเหตุการณ์น้ำมันใกล้หมดจะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ แต่หากเกิดกับตัวขึ้นมาจริงแล้วล่ะก็ จะทำให้ผู้ขับขี่เกิดอาการเครียดไม่เบาเชียวล่ะ เราจึงขอแนะนำวิธียืดระยะทางขับขี่ในช่วงน้ำมันรถใกล้หมดมาฝากกัน รับรองทำตามนี้ไม่เจอปัญหารถตายกลางทางอย่างแน่นอน
1.ตรวจสอบเส้นทางไปยังปั๊มน้ำมันด้วย Google Maps
หากขับรถในพื้นที่ที่ไม่คุ้นชิน ไม่รู้ว่ามีปั๊มน้ำมันอยู่ตรงไหนบ้างแล้วล่ะก็ ให้หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อค้นหาปั๊มน้ำมันในละแวกนั้น หากเป็นเส้นทางที่ต้องขับผ่านอยู่แล้วก็คงไม่มีปัญหา แต่ถ้าต้องออกนอกเส้นทางก็พยายามหลีกเลี่ยงสภาพจราจรติดขัดให้มากที่สุด เพราะจะทำให้ระยะทางขับขี่ที่เหลือจากปริมาณน้ำมันในถังลดลงอย่างมากทีเดียว
2.ใช้ความเร็วคงที่ ไม่เร่งเครื่องยนต์โดยไม่จำเป็น
ควรออกตัวอย่างช้าๆ ไม่รีบร้อนจนเกินไป เพราะจังหวะที่กดคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็ว ถือเป็นช่วงที่เครื่องยนต์กินน้ำมันมากที่สุด ควรรักษาความเร็วคงที่ไว้ประมาณ 80 - 90 กม./ชม. และหลีกเลี่ยงการเร่งแซงโดยไม่จำเป็น
3.ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในรถ
แม้ว่าการขับรถปิดแอร์จะช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองลงได้มาก แต่คงไม่มีใครทนขับรถร้อนๆ ได้หรอกจริงไหม วิธีหนึ่งที่พอช่วยได้คือการปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในรถที่ไม่จำเป็น เช่น เครื่องเสียง, ไฟตัดหมอก, ระบบไล่ฝ้า ฯลฯ รวมถึงงดการชาร์จโทรศัพท์มือถือด้วยช่องจ่ายไฟภายในรถ
4.เข้าเกียร์ว่างเมื่อจอดติดไฟแดง
หากต้องเผชิญกับรถติดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรผลักเกียร์ไปยังตำแหน่งว่าง (N) จะช่วยลดการกินน้ำมันของเครื่องยนต์ได้กว่า 30-40% เลยทีเดียว
แต่หากน้ำมันหมดขึ้นมาจริงๆ จะทำอย่างไรดี?
ก่อนน้ำมันหยดสุดท้ายจะหมดไป รถจะเกิดอาการกระตุกเหมือนจะดับ ควรใช้โอกาสนี้รีบนำรถเข้าไปจอดยังพื้นที่ปลอดภัยโดยทันที หรืออย่างน้อยควรชิดขอบทางด้านซ้ายให้มากที่สุด หากอยู่บนทางด่วนสามารถโทรแจ้งสายด่วนการทางพิเศษแห่งประเทศไทย 1543 หรือหากอยู่บนมอเตอร์เวย์สามารถโทรสายด่วนกรมทางหลวง 1586 ได้
นอกจากนี้ คุณเองก็อาจมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินจากบัตรเครดิตต่างๆ หรือบริการ Roadside Assistance จากผู้ผลิตรถยนต์แต่ละยี่ห้อ ซึ่งคุณสามารถขอรับบริการได้เช่นกัน นอกเหนือจากการใช้รถรับจ้างเพื่อไปซื้อน้ำมันมาเติมเอง
อย่างไรก็ดี เทคนิคเหล่านี้เป็นเพียงตัวช่วยที่เซฟคุณจากสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น ทางที่ดีควรเติมน้ำมันให้เพียงพออยู่เสมอ จะได้ไม่ต้องประสบปัญหาเหล่านี้ครับ
ที่มา : www.sanook.com