สิ่งสำคัญในภาคธุรกิจโลจิสติกส์ คงหนีไม่พ้นเรื่องของการลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง การลดระยะเวลาที่ใช้ในการขนส่ง และลดปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้โดยใช้ต้นทุนน้อยที่สุด และหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญที่ภาคธุรกิจโลจิติกส์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งก็คือ GPS
แน่นอนว่า ต้นทุนพลังงานที่สำคัญที่สุด สำหรับการขนส่งของธุรกิจโลจิสติกส์ ก็คือค่าน้ำมันนั่นเอง ระบบ GPS โดยทั่วไปนั้น ก็จะมีระบบติดตามเส้นทาง ซึ่งก็จะสามารถช่วยให้สามารถตรวจสอบเส้นทางการขนส่งได้ ป้องกันการขับรถออกนอกเส้นทาง รวมถึงระบบตรวจวัดอัตราเร็ว ซึ่งก็จะทำให้สามารถควบคุมความเร็วในการขับขี่ของพนักงานได้ดีอีกด้วย ซึ่งเป็นระบบที่ดี ที่จะช่วยให้ธุรกิจโลจิสติกส์ประหยัดค่าน้ำมันได้
ระบบ GPS สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์นั้น จะมีความสามารถในคำนวณระยะเวลาการเดินทาง หรือการขนส่งสินค้าไปถึงที่หมายของรถขนส่งได้แม่นยำมากในปัจจุบัน ทำให้ทั้งผู้ประกอบการเอง ทีมงานที่เกี่ยวข้อง และลูกค้า สามารถวางแผนการดำเนินการ การจัดการสินค้าของตัวเองได้เป็นอย่างดี ลดการรอคอย ลดการสต็อกสินค้า ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการจัดการต้นทุนธุรกิจ นอกจากนี้ และยังช่วยเพิ่มความพึงพอใจในการให้บริการลูกค้าของธุรกิจโลจิสติกส์ได้อีกด้วย
การสูญเสีย หรือความเสียหายที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ ก็คงเป็นเรื่องของอุบัติเหตุจากการขับขี่ยานพาหนะนั่นเอง ซึ่งระบบ GPS สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ นอกจากจะมีระบบนำทาง ระบบการติดตาม และระบบจำกัดความเร็วแล้ว ระบบ GPS ก็ยังมีฟังก์ชันในส่วนของการแจ้งเตือนระบบการซ่อมบำรุงในด้านต่างๆ ซึ่งก็จะสามารถช่วยลดอุบัติและการสูญเสียในการขับขี่ได้ดีอีกด้วย
ระบบ GPS สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ ที่น่าสนใจอีกฟังก์ชันหนึ่งนั่นก็คือ ระบบตรวจวัดปริมาณน้ำมันในถัง และการตรวจจับการสตาร์ดเครื่องยนต์ ซึ่งก็จะสามารถใช้ในการตรวจสอบ หรือการทวนสอบค่าใช้จ่าย และการทำงานต่างๆ ของพนักงานได้ ที่สำคัญ ระบบของ GPS ยังสามารถเชื่อมต่อกล้องและไมโครโฟน เพื่อรับส่งภาพและเสียงระหว่างผู้ขับขี่และทีมงานในแบบออนไลน์ได้อีกด้วย ซึ่งจะสามารถช่วยลดโอกาสในการทุจริตของพนักงานได้
นอกจากประโยชน์ทั้ง 4 ข้อที่ได้กล่าวมาแล้ว ยังมีประโยชน์อีกมากมายที่ GPS สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจโลจิสติกส์ได้ ขึ้นอยู่กับการพัฒนาระบบ Software ของ GPS
ที่มา : www.geniustracks.com
ทดลองใช้ฟรี
All Download