ภาพ : https://www.allstate.com/
การจอดรถตากฝนบ่อยๆนั้น หลายๆคนคงเคยได้ยินมาว่าจะทำให้สีรถหมอง เสียสภาพหรือลอกได้ ทำให้ใครหลายคนอาจจะกลัวที่จะจอดรถตากฝนไปเลย วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยกันว่าการจอดรถตากฝนนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้สีรถเสียสภาพเดิมไปได้จริงๆหรอ
ฝนนั้น ทำให้หมอง
โดยทั่วไปแล้วแค่เพียงฝนจะไม่สามารถทำให้สีของรถเรานั้นลอกได้ แต่ฝนนั้นทำให้รถของเรานั้นหมองนั้นมีส่วนจริง เพราะการจอดรถตากฝนแล้วจะมีเศษดินเศษทราย คราบสกปรกต่างๆมาติดที่รถของเรา ซึ่งจะสังเกตได้ว่าวันใดที่เราจอดรถตากฝนแล้วฝนตกใส่ จากตอนแรกที่รถสะอาดๆ แต่พอฝนหยุดตกแล้วรถแห้ง ก็จะมีคราบดิน คราบทรายติดอยู่ตามรถเราเต็มไปหมด คราบสกปรกพวกนี้แหละที่ทำให้รถของเราดูหมองลงนั่นเอง โดยเพียงแค่เราล้างรถสัปดาห์ละครั้ง ก็จะช่วยให้ให้สีสันของรถเรากลับมาสดใสสวยงามได้แล้ว
ถ้าเป็นฝนกรดหละ
แต่ฝนกรดนั้นเป็นข้อยกเว้น เพราะฝนกรดนั้นมีสารเคมีไนเตรดและซัลเฟตที่มีฤทธิ์สามารถกัดกร่อนสีผิวของรถได้ อย่างเช่นในต่างประเทศเคยมีกรณีรูปปั้นโดนฝนกรดกัดเซาะจนเสียหายมาแล้ว ซึ่งแม้ในไทยจะยังไม่เคยเจอเหตุการณ์ฝนกรดที่รุนแรงขนาดนี้ แต่ก็สามารถป้องกันสีของรถเราไว้ก่อนได้อีกชั้น เพียงการลงทุนเคลือบสีของรถเราเพิ่มเติม จะช่วยให้สีนั้นทนทานและคงสภาพติดกับรถของเราได้มากขึ้นอีกวิธีหนึ่งในระยะยาว
แสงแดด นี่แหละปัญหาตัวจริง
แสงแดดนี่อันตรายกว่าฝนเสียอีก โดยรังสี UV จากแสงแดดจะทำให้สีรถนั้นซีดได้ไวขึ้น ยิ่งจอดตากแดดเป็นเวลานานสียิ่งซีดไว นอกจากนี้แล้วความร้อนจากแสงแดดยังทำให้สภาพยางของรถเสื่อมเร็วขึ้น ทั้งยังเป็นผลเสียกับสภาพเครื่องยนต์ด้วย ทางที่ดีจึงควรหาที่จอดในร่มหรือถ้าหาที่จอดในร่มไม่ได้จริงๆ ก็ควรซื้อผ้าคลุมรถดีๆเพื่อมาช่วยในการปกป้องรถของเราอีกทางหนึ่ง
ข้อมูล : https://www.tqm.co.th/
